จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

25 September 2013

ภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาด

Sydney White - "เทพนิยายสาววัยรุ่น" 






Sydney White / เทพนิยายสาววัยรุ่น


เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซิดนี่ย์ (Bynes) สาวน้อยทอมบอยที่กำลังจะได้ไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่ครั้งหนึ่งแม่ผู้ล่วงลับของเธอเคยได้เข้าเรียนและคาดหวังว่าอยากจะให้เธอได้มาใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยดั่งที่แม่เคยผ่านมา แต่เมื่อมาถึงที่นี่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่ง่ายด่ายอย่างที่เธอคิดไว้นัก เมื่อเธอถูกกลั่นแกล้งด้วยการขับไล่ออกจากหอพักหญิงป๊อปของมหาวิทยาลัย เธอได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแก๊งเด็ก 7ประหลาดแต่น่ารัก ซึ่งหนุ่มทั้ง 7 คนก็ล้วนมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่กลุ่มนี้ ซิดนี่ย์ได้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเด็กไม่เข้าพวกทุกคน จนกลายเป็นดาวคนใหม่ของมหาวิทยาลัยในบัดดล! แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอจะสามารถพิชิตหัวใจไทเลอร์ พรินซ์ หนุ่มหล่อคนดังของสถาบันได้หรือไม่ พร้อมเรื่องวุ่นๆดั่งนิยายสโนวไวท์ยุคใหม่จะลงเอยอย่างไร...





ดูเหมือนสาวน้อย Amanda Bynes ดูจะเหมาะกับหนังวัยรุ่นดูสบายๆเสียจริงๆ จากผลงานเก่าๆอย่างShe's the Man (2006) (ติดตามผลงานตั้งแต่เรื่องนี้แหละ ฮาได้ใจจริงๆ), Love Wrecked (2005) , What a Girl Wants (2003) หรือหนังเพลงสุดฮาเฮอย่าง Hairspray (2007) จะเรียกว่าเป็นนักแสดงวัยรุ่นฝ่ายหญิงที่เล่นหนังได้ฮาที่สุดคนหนึ่งยุคนี้เลยก็คงจะไม่ผิด โดยเฉพาะในหนังเรื่องนี้แม้บทของ Sydney จะไม่ต่างไปจากบทบาทที่ผ่านมาในผลงานเก่าๆเลย แต่ Bynes ก็ยังคงรักษาระดับการแสดงของเธอให้คงเส้นคงวาอยู่ได้เป็นอย่างดี ที่ชอบเป็นการส่วนตัวคือการแสดงสีหน้าของเธอครับให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและดูน่ารักไปอีกแบบ(^^) 


ด้านรายของ Sara Paxton ดาราสาววัยรุ่นอีกคนที่โด่งดังมาจากบทนางเงือกสาวในAquamarine (2006) หรือบทขวัญใจไอ้แมงปอแมนจาก Superhero Movie (2008) บอกตามตรงส่วนตัวคิดว่าเธอดูจะเหมาะกับบทสาวร้ายมากกว่าสาวหวานเสียอีก ยิ่งในเรื่องนี้แล้วบท Rachel สาวร้ายประจำเรื่องผู้คุมหอพักหญิงที่มีนิสัยหลงตัวเองและไม่ชอบให้ใครมาดูดีดูเด่นกว่าตัวเองเด็ดขาด ซึ่งเธอก็เล่นได้สมบทบาทจนรู้สึกน่าหมั่นใส้เสียจริงๆ ด้านหนุ่มหล่อพระเอกของเรื่อง Matt Long ในบท Tyler หนุ่มฮ็อตประจำมหาวิทยาลัยที่นอกจากโชว์หน้าหล่อๆแล้วแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย (บางฉากออกจะดูทื่อๆไปสะงั้น)


เพราะ ส่วนที่เด่นจริงๆของฝ่ายชายก็คือกลุ่ม 7 หนุ่มนิสัยประหลาดในเรื่อง (หรืออีกนัยก็คือคนแคระทั้ง 7นั่นเอง) โดยเฉพาะรายของ Jack Carpenter ในบท Lenny หนุ่มขี้โรคที่ดูซื่อๆ มองโลกในแง่ดี ที่ดูเป็นธรรมชาติและยังเป็นสีสันอย่างหนึ่งในเรื่องด้วย ในส่วนของอีก 6 คนที่เหลือก็ถือว่าทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี นักแสดงทุกคนดูลื่นไหลไปกับบทไม่ขัดตาขัดใจนัก (หนึ่งในนั้นคือหนุ่มร่างโย่งนักเรียนพลังจิต Jeremy Howard จาก Accepted (2006) ที่ดูจะผูกขาดกับบทตัวละครที่เป็นสีสันในฉากจบหนังจากผลงาน 2 เรื่องนี้สะเหลือเกิน)






Sydney White ถือเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงเอาเรื่องราวของนิยายอมตะ Snow White มาปรับในดูทันสมัยมากขึ้น โดยให้จากเจ้าหญิงแสนสวยมาเป็นนักเรียนสาวมหาวิทยาลัย ให้แม่มดมาเป็นหญิงสาวจอมวายร้าย เจ้าชายขี่ม้าขายเป็นหนุ่มฮ็อตประจำมหาวิทยาลัย จากครแคระทั้ง 7 ในกระท่อมกลางป่าลึกมาเป็น 7 หนุ่มนิสัยแปลกๆชอบทำตัวพิลึกจนถูกคนทั้งมหาวิทยาลัยมองว่าเป็นพวกนอกคอกและแยกตัวมาอยู่บ้านเดี่ยวโทรมๆ ส่วนที่เด็ดสุดก็คือ “แอปเปิ้ลอาบยาพิษ” ที่ถูกนำมาปรับให้ร่วมสมัยโดยการเปลี่ยนมาเป็น........(เอาไว้ไปดูเอาเองแล้วกัน ^^)



สิ่งที่เรื่องนี้ให้ข้อคิดไว้แม้จะไม่ชวนฝันอย่างในนิยาย Snow White นัก แต่ก็เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตโดยไม่ใช่การพยายามให้เป็นอย่างคนอื่น แต่เป็นการดำเนินชีวิตในแบบที่เราเป็นตัวของเราเอง การยอมรับและมองไปข้างหน้า การใช้ความสามัคคีในหมู่เพื่อนเพื่อปรับปรุงให้กันและกัน






ฉากที่ดูดีที่สุดในเรื่องก็คงเป็นฉากการรุกขึ้นต่อสู้ของสาวน้อย Sydney White กับหนุ่มทั้ง 7 ตลอดจนไปถึงบทสรุปในฉากจบที่ให้อารมณ์ดราม่านิดๆ ให้อารมณ์ของคนที่พยายามทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง และเชื่อว่าเมื่อทำแล้วทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเราก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีด้วยเช่นกัน


ตัวหนังไม่ต่างจากหนังวัยรุ่นทั่วไปนัก แต่ก็ถือว่าสร้างความบันเทิงได้ในระดับหนึ่งและถ้าหากใครเป็นแฟนของสาว Amanda Bynes แล้วก็ถือว่าไม่ควรพลาด หรือถ้าใครชื่นชอบในเรื่องราวของ Snow White มาก่อน ใน Sydney White คุณก็อาจจะได้ความแปลกใหม่ไปอีกแบบบวกกับความฮาและกัดจิกสไตล์หนังวัยรุ่นที่จะทำให้คุณได้อมยิ้มเป็นแน่






No comments:

Post a Comment